หากคุณกำลังพิจารณาว่าโรงแรมของคุณจำเป็นต้องใช้ Channel Manager หรือไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยเพิ่มยอดขาย และรายได้ให้กับโรงแรมคุณหรือเปล่า เรามีบางอย่างที่จะบอกคุณ

อันดับแรกเลย!
เราสามารถจำแนกคำตอบได้โดยจัดหมวดหมู่ขนาดของโรงแรม เช่น ขนาดเล็กมาก, เล็ก, กลาง, ใหญ่ และใหญ่มาก

ถ้าโรงแรมของคุณมีขนาดที่เล็กมากถึงมาก นั่นหมายถึงคุณมีตั้งแต่ 1 ห้องไปจนถึงประมาณ 30 ห้อง ที่รวมทั้ง ที่พักใน Airbnb หรือโรงแรมของคุณมีห้องพักไม่กี่ประเภท คำตอบนั่นคือ “ใช่” คำว่าใช่ตัวโตๆเลย ทำไมน่ะเหรอ? เหตุผลง่ายๆ เพราะว่าถ้ามีจำนวนห้องที่มีจำกัด และไม่มีสถานที่อื่นจะให้แขกพักในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ Overbooking และถ้าการตลาดโดยหลักของคุณมากจาก OTAs การมี Channel Manager จะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับ Overbooking ที่สร้างความปวดหัวนั้นอาจส่งผลกระทบต่อโรงแรม แขกที่เข้าพัก และตัวกลางอย่าง OTAs หากไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อาจส่งผลกระทบได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบจากแขกได้

สำหรับโรงแรมที่มีขนาดกลาง ห้องพักตั้งแต่ 31 – 80 ห้อง มีจำนวนห้องพักมากกว่าที่ต้องดำเนินการและไม่ได้ตกอยู่ในระดับที่น่ากังวลเหมือนโรงแรมขนาดเล็ก โรงแรมขนาดกลางไม่เพียงแต่ต้องการให้มีจำนวนผู้เข้าพักสูงเท่านั้น แต่ยังต้องการอัตราเฉลี่ยต่อวันที่ดีขึ้นด้วย Channel Manager สามารถช่วยทำงานที่น่าเบื่ออย่างการปรับอัตราห้องพักให้สอดคล้องกับจำนวนผู้เข้าพักตามที่คาดการณ์ไว้ E-commerce / Revenue managers สำหรับโรงแรมขนาดนี้ ก็ควรมองหาการจำหน่ายที่กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป จำนวนห้องพักจะไม่ใช่ปัญหาจริงๆของที่นี่ แต่อาจจะต้องมีการผสมผสานที่ดีระหว่าง B2B และ B2C ขึ้นอยู่กับการตลาดเมื่อมีการใช้ Channel Manager โรงแรงอาจมีกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อจัดการราคาและจำนวนของห้องแต่ละประเภทเมื่อต้องจัดการกับส่วนแบ่งทางการตลาดที่แตกต่างกัน หรือโปรโมชั่นต่างๆ บนเว็บไซต์อื่นๆ ถ้าโรงแรมของคุณไม่ได้เน้นไปที่การตลาดออนไลน์ คำตอบก็คือ "ไม่จำเป็น" ถ้าโรงแรมของคุณไม่มีประสบการณ์ในด้านการจัดการ E-commerce/ revenue manager นั่นอาจจะหมายถึงว่าโรงแรมของคุณไม่จำเป็นต้องใช้ Channel Manager นี่คือการประหยัดค่าใช้จ่าย คุณจะไม่ต้องกังวลกับตลาดออนไลน์เนื่องจากคุณมีตลาดอื่น ๆ ที่ต้องดำเนินการ

ถ้าโรงแรมของคุณมีที่พักมากกว่า 300 ห้อง จะมีคำตอบระหว่าง "ใช่" และ "ไม่" เว้นเสียแต่ว่าโรงแรมของคุณมีหลายสาขา และต้องการจัดการกับการตลาดออนไลน์ คุณอาจจะต้องการ Channel Manager ให้กับโรงแรม แต่หากโรงแรมของคุณไม่มีการตลาดออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ (เนื่องจากโรงแรมขนาดใหญ่ส่วนมากมักจะต้องการกลุ่มทางธุรกิจที่มาเติมเต็มมากกว่า FIT หรือจากออนไลน์) และถ้าคุณไม่ได้มองหาการจัดการ และหากคุณไม่ต้องการจัดการหรือแบ่งพื้นที่โฆษณาของคุณให้ตัวแทน B2B กับ B2C ความจำเป็นในการใช้ Channel Manager แทบจะไม่ต้องใช้เลย

In Summary:
แนวคิดที่ว่าโรงแรมขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องใช้ Channel Manager นั้นไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นโรงแรมที่ดำเนินการเป็นแบบธุรกิจครอบครัว / พนักงาน จะต้องจัดการดำเนินการหลายอย่าง และแหล่งธุรกิจหลักมาจาก B2C ออนไลน์ คุณจะไม่มีเวลาสำหรับงาน เช่นการอัปเดต Inventory การจองที่ต้องถูกยกเลิก หรือที่ต้องการแก้ไข เกิดได้ค่อนข้างบ่อย ดังนั้นจึงต้องได้รับการเอาใจใส่เพิ่มเติมจากพนักงานที่ค่อนข้างยุ่งอยู่แล้วกับงานประจำวันในแต่ละวันเช่นการ check-in / check-out ของแขกหรือการทำความสะอาดห้องพักหลังจากลูกค้าออกไป โรงแรมขนาดเล็กจำนวนมากที่ต้องการแข่งขันเพื่อทำการตลาดออนไลน์ และต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้พวกเขามองเห็นช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ต่างๆ ดังนั้นการเลือกใช้ Channel Manager จึงสมเหตุสมผลกับโรงแรมขนาดเล็กเป็นอย่างมาก

สำหรับโรงแรมขนาดกลางนั้น ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์เป็นอย่างมาก ซึ่งหากพวกเขาต้องการแบ่งการขายให้กับตัวแทน B2B / B2C กลยุทธ์อาจต้องมีความซับซ้อนมากขึ้น ในการทำราคา และโปรโมชั่นต่างๆสำหรับห้องหนึ่งประเภท การใช้ Channel Manager จะช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้ และเกิดความสมดุลระหว่างจำนวนผู้เข้าพักสูงและ ADR โรงแรมในระดับนี้อาจจะต้องมองหา Channel Manager ในขั้นสูงที่นำเสนอได้มากกว่าคุณสมบัติขั้นพื้นฐาน การวิเคราะห์และรายงานเชิงสถิติอย่างระเอียดเป็นอีกกุญแจสำคัญในการตัดสินใจสำคัญ

สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก ต้องพิจารณาว่าแหล่งธุรกิจของพวกเขานั้นมาจากออนไลน์หรือมาจากกรุ๊ป? อาจจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลทางการเงินมากนัก ในการใช้ Channel Manager เปิด/ปิด allotments โรงแรมขนาดใหญ่ หรือเครือโรงแรมขนาดใหญ่อาจจะพิจารณาในการใช้ Channel Manager ถ้าพวกเขาต้องการจะจัดการทางด้านการตลาดออนไลน์จากส่วนกลางของพวกเขา (หรือมอบให้กับทีมงานที่จัดการรายได้ทั้งหมดของโรงแรมในการจัดการโรงแรมทั้งหมด)